บทความนี้คัดลอกมาจาก หนังสือวิถีไม่ตัน  ของคุณ ตัน โออิชิ
ใจความว่า........

ผมเชื่อในหลักการทำธุรกิจแบบ  “ใช้ใจ” 
สมัยยังทำธุรกิจที่เมืองชล  ผมเคยเปิดร้านกาแฟแห่งแรกชื่อ  “เอสเปรสโซ่”  ขายดีมากจนต้องขยายอีกร้านชื่อ  “ออดี้”    เฮียหยู”  เจ้าของกาแฟอโรม่า  ส่งเม็ดกาแฟกับเครื่องชงกาแฟระบบไอน้ำอย่างดีให้ผม   เปิดร้านไปแล้ว  7  เดือน  แต่ยังไม่มาเก็บเงินสักบาท  เฮียบอกว่าเห็นผมเพิ่งเปิดร้านใหม่ ๆ เลยอยากให้หมุนเงินสบาย ๆ  ผ่านช่วงลำบากไปก่อน   “น้ำใจ”  วันนั้นทำให้ผมเป็นลูกค้าเฮียหยูจนถึงวันนี้  แต่ผมไม่ได้ซื้อแค่เจ้าเดียว  เจ้าอื่นก็ซื้อด้วยเพื่อบริหารความเสี่ยง  ทุกครั้งที่ซัพพลายเออร์เจ้าใหม่ ๆ  มาให้ขอเสนอคุณภาพดีกว่า  ราคาถูกกว่า  ผมจะขอให้เฮียช่วยอธิบาย  ถ้าหาคำตอบไม่ได้  เฮียต้องลดราคาให้ผม


ตลอดชีวิตการทำธุรกิจ  ผมเชื่อในหลักการ  “ราคาที่เป็นธรรม”  ราคาอาจจะไม่  “ถูกที่สุด”  ก็ได้  แต่ต้อง  “สมเหตุสมผล” 
หลายครั้งที่ผมยินดีจ่ายในราคา  “แพงกว่า”  เพื่อแลกกับ  “โอกาส”  โอกาสในการประหยัดเวลา  โอกาสในการเรียนรู้  โอกาสการทำธุรกิจในระยะยาว ฯลฯ  โอกาสบางอย่างก็ไม่ได้วัดกันที่ “ตัวเงิน” 
ผมชอบมองอนาคตธุรกิจร่วมกันแบบยาว ๆ  ไม่ใช่ใครให้ราคา  “เลื่อยขา”  เก่งกว่าก็เปลี่ยนคู่ค้าบ่อย ๆ 
ทำธุรกิจกับใครแล้วผมชอบกอดคอโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน


ครั้งหนึ่งเครือ  SCG  เคยส่งคนมาสัมภาษณ์ว่าทำไมผมถึงเป็นลูกค้าซื้อกล่องกระดาษกับเขาถึง  9  ปี  นั่นเพราะผมไม่ได้มองเขาเป็นแค่  “คู่ค้า”  แต่ถือว่าเราเป็น  “ผู้ร่วมทุน”  ผมเป็นลูกค้าใช้กล่องเป็นล้านใบ  ถ้าเขาลงทุนเครื่องจักรผลิตสินค้าให้เรา  แล้วผมเปลี่ยนเจ้าบ่อย ๆ  จะทำธุรกิจกันยังไง  ผมแฮปปี้กับการทำธุรกิจแบบ  “ขายไส้กรอก  ไม่เลี้ยงหมูเอง”  แบ่งกันลงทุน  แบ่งกันเสี่ยง  แบ่งกันกำไร   อย่าค้าขายแบบเราอยู่ได้  แต่เขาอยู่ไม่ได้  แต่มันต้อง  “เขาอยู่ได้  ... เราอยู่ได้”  ถึงจะไปกันยืด 
บางครั้งผลประโยชน์ที่ดูเหมือนเราจะเสีย  อาจหมายถึงโอกาสในการทำธุรกิจ  ผมได้ประสบการณ์ทำธุรกิจ  “เบ็ดสองอันตกปลาแค่ตัวเดียว”  มาจากการตกปลา  จะไปด้วยกันให้สนุก  มันต้องต่างคนต่างได้ปลา  ไม่ใช่คุณเก๋ากว่า  เก่งกว่า  เกี่ยวเบ็ด ๆ  อยู่คนเดียว  แต่คนอื่นนั่งเซ็ง  ถึงจะมีเบ็ดสองอัน  แต่ตกปลาแค่ตัวเดียว ... เหลือปลาให้คนอื่นตกบ้างก็ได้นะครับ  ทำธุรกิจต้องใจกว้าง ๆ  หลับตาข้างเดียวบ้าง  อย่าวาดเสือให้เขากลัว  แต่จงเป็นหมูให้เขาเชือด  วันนี้หันมาถามตัวเองอีกที  นอกจาก  “ผลประโยชน์” และ “คนที่เรารัก”  แล้ว  รอบตัวเรายังมี  “คนที่รักเรา”  เหลืออยู่กี่คน